อย่างที่ทราบกันดีว่า สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำให้ได้มากที่สุด เพราะจะทำให้รายได้มั่นคง ซึ่งนั่นหมายถึงการที่ธุรกิจจะเติบโตอย่างมั่นคงตามไปด้วย
กลยุทธ์กระตุ้นการซื้อซ้ำ
หนึ่งในกลยุทธ์ที่นักการตลาดมักจะนำมาใช้กระตุ้นการซื้อสินค้า สร้างการซื้อซ้ำ หรือที่เรียกว่าการสร้างความจงรักภักดีในสินค้าของบริษัท (Brand Royalty) คือ การบริหารความสัมพันธ์หลังการขายกับลูกค้า เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวก คือลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ลูกค้าใหม่ที่เห็นรีวิวดีๆ ก็หันมาซื้อสินค้า ด้วยบริการรับประกันสินค้า
อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมาการรับประกันสินค้านั้นจะนิยมใช้ระบบ Call Center และศูนย์บริการที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ (Service Center) เป็นหลัก เพราะเข้าถึงง่าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามักจะมีปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น พนักงานรองรับอารมณ์ลูกค้าไม่ไหว เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง พนักงานหมุนเวียนเปลี่ยนกะ ทำให้บริการไม่ต่อเนื่อง ข้อมูลลูกค้าตกหล่น พนักงานทำงานล่าช้า มาตรฐานการบริการของแต่ละศูนย์บริการไม่เท่ากัน เป็นต้น ซึ่งเมื่อปัญหาเหล่านี้สะสมมากขึ้น สุดท้ายจะทำให้อัตราการซื้อซ้ำของลูกค้าเก่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง องค์กรธุรกิจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ แน่นอนว่ากำไรที่ควรได้ก็ต้องลดลงไปด้วย หรือไม่แน่ว่าอาจจะเข้าสู่ภาวะขาดทุนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ถ้าไม่อยากเจอกับปัญหาเหล่านี้ หรือกำลังพบเจออยู่ และต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน องค์กรธุรกิจควรรู้จักและใช้โปรแกรม ERP ที่ชื่อว่า RMA & FAE Module
ทำความรู้จัก RMA & FAE Module โปรแกรม ERP เพื่อบริการหลังการขาย
RMA & FAE Module คือ โปรแกรม ERP รูปแบบหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติในการช่วยยกระดับบริการหลังการขาย ด้วยการรับประกันสินค้า ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดบริการหลังการขายที่ลูกค้าล้วนให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ โดยข้อมูลของสินค้าจะถูกบันทึกในใบรับประกันอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้พนักงานที่บริการลูกค้าสามารถทราบสถานะของสินค้า ติดตามสถานะการซ่อมบำรุงสินค้า และตรวจสอบอะไหล่จากสินค้าคงคลังได้ทันที ผ่าน 6 ฟังก์ชั่นสำคัญ ได้แก่
- การจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้า
- การจัดการงานซ่อมบำรุง
- การจัดการอะไหล่และอะไหล่ทดแทน
- การจัดการข้อมูลสินค้าคงคลัง
- การจัดการบาร์โค้ด
- การแสดงสถิติสินค้าที่ Defect
โปรแกรม ERP RMA & FAE Module สำคัญอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า การใช้แรงงานคนในการดูแลลูกค้าหลังการขายเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่เวิร์คสำหรับการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำๆ สักเท่าไหร่ ดังนั้นการมีซอฟต์แวร์มาช่วยทำงานเสริมในจุดที่แรงงานคนอาจทำได้ไม่เต็มที่ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะโปรแกรม ERP นี้มีประโยชน์มากมาย
- RMA & FAE Module ช่วยจัดการคำร้องขอจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ไม่ตกหล่น
- ลดโอกาสการสื่อสารผิดพลาดระหว่างพนักงานและลูกค้า ที่อาจมีอารมณ์ขุ่นมัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
- ช่วยลดเวลาในการค้นหาข้อมูล ทำให้สินค้าได้รับการซ่อมบำรุงรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ติดตามประวัติสินค้าและข้อมูลในการรับประกันได้ชัดเจน
- ติดตามสถานการณ์ซ่อมบำรุง การรับประกัน รวมถึงความคืบหน้าในการซ่อมบำรุงสินค้าได้เรียลไทม์ ทำให้พนักงานทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น
- จัดการหาอะไหล่ที่เหมาะสมกับสินค้าที่มีปัญหา หรือหาสินค้าทดแทนจากคลังสินค้าหรือซัพพลายเออร์ได้ทันท่วงที
- บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และสร้างรายงานสถิติโดยละเอียด
- คลังข้อมูลที่ได้จากโปรแกรม ERP นี้ จะช่วยประสานการทำงานของแต่ละแผนกในองค์กรให้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น เช่น พนักงานฝ่ายดูแลลูกค้า พนักงานฝ่ายสินค้าคงคลัง วิศวกรซ่อมบำรุง Outsource เป็นต้น
- สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้า และแผนการทำงานใหม่ๆ ในอนาคตได้
ทำความรู้จัก RMA & FAE Module ให้มากขึ้น หรือติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่ https://aresth.co.th/products/argo-core/maintenance-software